พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงโครงการ"หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”

ในตอนเย็น วันที่ ๑๒ เดือนพฤษภาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประเทศไทย มุ่งเน้นแนวคิด”หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง"  กล่าวถึงเรื่องนี้ในโทรทัศน์รายการประจำสัปดาห์  เนื้อหาหลักมีดังนีั ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจตะวันออกของประเทศไทยกับแนวคิด"หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ของคุณXijinping ยกขึ้นมา มีความคิดที่คล้ายคลึงกัน  นี่ก็คือเหตุผลที่ทำให้ประเทศไทยมีความมิตรภาพเกี่ยวกับการสร้างโครงการพื้นฐานกับประเทศอื่นๆ  แนวคิด   "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ทำให้ประเทศจีนเชื่อมโยงกันกับอีก๖๔ประเทศและมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมาก

ครอบคลุม ๔.๕ พันล้านคนในเอเชีย  ยุโรปและแอฟริกา  จำนวนGDPทั้งหมด มีมูลค่ารวม ๒๓ ล้านล้านดอลลาร์ เป็น ประชากรทั่วโลก ๖๒%และเศรษฐกิจโดยรวม๓๐% ประเทศจีนผลักดันการก่อสร้างถนนเศรษฐกิจสายไหมทางบก รวมทั้งหมด ๓ เส้นทาง ผลักดันการก่อสร้างและการเชื่อมถนนเศรษฐกิจสายไหมทางทะเลที่เป็นถนนสายศตวรรษที่ 21  รวมทั้งหมด ๒ เส้นทาง   "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ทำให้ประเทศจีนเชื่อมโยงกันกับอาเซียน เอเชีย  ยุโรปและแอฟริกา  รวมทั้งมีความร่วมมือในทางด้านนโยบาย การค้า และการเงิน  ประเทศไทยเป็นประเทศแนวเขตเส้นทางตาม"หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง"

ทำให้ประเทศไทยเชื่อมโยงกันกับตลาดหลักทั้งโลก หวังว่าเราจะให้ความสนใจและร่วมกันสนับสนุนการดำเนินการตามโครงการนี้    แนวคิด"หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" เหมาะสมกับความต้องการทีว่า   จะช่วยเสริมสร้างการเชื่อมต่อระหว่างภูมิภาค และทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางภูมิภาค  รัฐบาลจะทำให้การเชื่อมต่อกับคู่ค้าที่สำคัญเพื่อเสริมสร้างศักยภาพระยะยาวในการแข่งขัน ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลจะปรับนโยบายต่อไปนี้: ๑. Thailand 4.0  กลยุทธ์นี้เหมาะสมกับกลยุทธ์ "จีนผลิต ๒๐๒๕" กลยุทธ์ เน้นการพัฒนานวัตกรรมสินค้า และการผลิตระดับไฮเอนด์จะช่วยให้ประเทศไทยกลายเป็น พันธมิตรเชิงกลยุทธ์ ๒. ทำให้โครงการเศรษฐกิจตะวันออกเป็น ฐานเกี่ยวกับการสร้างสินค้าผลิตและจำหน่ายภายในประเทศ ช่วยขนส่งสินค้าไปยังประเทศกัมพูชา ลาว เวียดนาม และประเทศอื่น ๆ